แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ชนิดใดบ้างที่นิยมในวงการอุตสาหกรรม

       à¸ªà¸³à¸«à¸£à¸±à¸šà¹ƒà¸™à¸¢à¸¸à¸„ปัจจุบันแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับวงการอุตสาหกรรมในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากแขนกลหุ่นยนต์เป็นเครื่องจักรที่ถูกออกแบบควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติโดยการเขียนโปรแกรมให้เคลื่อนที่ได้อย่างน้อย 3 แกนหรือมากกว่า ซึ่งแขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot) สามารถออกแบบให้ยึดอยู่กับที่หรือย้ายตำแหน่งไปมาได้ตามความเหมาะสมของประเภทงานที่จะใช้ในงานอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยการแบ่งชนิดของหุ่นยนต์จะแบ่งตามลักษณะรูปทรงของพื้นที่ทำงาน (Envelope Geometric) ของจุดต่อ (Joint) ของหุ่นยนต์สามารถแบ่งได้ 2 แบบ ดังนี้ 1. ชนิด Revolute (R) เป็นการหมุนรอบแกน (Rotary) 2.Prismatic (P) เป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น (Linear motion) และเมื่อนำจุดต่อของหุ่นยนต์ทั้งสองแบบมาต่อเข้าด้วยกันอย่างน้อย 3 แกนหลักจะได้พื้นที่ทำงาน ( Work envelope) ที่มีลักษณะแตกต่างกันไปก็จะได้ประเภทแขนกลหุ่นยนต์ต่างๆ ใช้ในวงการอุตสาหกรรม

 

แขนกลหุ่นยนต์ (Industrial Robot)

 

 

ประเภทของแขนกลหุ่นยนต์ที่นิยมใช้ในวงการอุตสาหกรรม ได้แก่


1. Cartesian (Gantry) Robot แกนทั้ง 3 ของแขนกลหุ่นยนต์จะเคลื่อนที่เป็นแบบเชิงเส้น (Prismatic) ถ้าโครงสร้างมีลักษณะคล้าย Overhead Crane จะเรียกว่าเป็นหุ่นยนต์ชนิด Gantry แต่ถ้าหุ่นยนต์ไม่มีขาตั้งหรือขาเป็นแบบอื่น เรียกว่า ชนิด Cartesian

ข้อดี

1. เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรงทั้ง 3 มิติ
2. การเคลื่อนที่สามารถทำความเข้าใจง่าย
3. มีส่วนประกอบง่ายๆ
4. โครงสร้างแข็งแรงตลอดการเคลื่อนที่


ข้อเสีย

1. ต้องการพื้นที่ติดตั้งมาก
2. บริเวณที่หุ่นยนต์เข้าไปทำงานได้ จะเล็กกว่าขนาดของตัวหุ่นยนต์
3. ไม่สามารถเข้าถึงวัตถุจากทิศทางข้างใต้ได้
4. แกนแบบเชิงเส้นจะ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลวได้ยาก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากโครงสร้างมีความแข็งแรงตลอดแนวการเคลื่อนที่ ดังนั้นจึงเหมาะกับงานเคลื่อนย้ายของหนักๆ หรือเรียกว่างาน Pick-and-Place เช่น ใช้โหลดชิ้นงานเข้าเครื่องจักร (Machine loading) ใช้จัดเก็บชิ้นงาน (Stacking) นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในงานประกอบ (Assembly) ที่ไม่ต้องการเข้าถึงในลักษณะที่มีมุมหมุน เช่น ประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และงาน Test ต่างๆ

2. Cylindrical Robot หุ่นยนต์ประเภทนี้จะมีแกนที่ 2 (ไหล่) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) เป็นแบบ Prismatic ส่วนแกนที่ 1 (เอว) จะเป็นแบบหมุน (Revolute) ทำให้การเคลื่อนที่ได้พื้นที่การทำงานเป็นรูปทรงกระบอก

 à¸‚้อดี

1. มีส่วนประกอบไม่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่สามารถเข้าใจได้ง่าย
3. สามารถเข้าถึงเครื่องจักรที่มีการเปิด – ปิด หรือเข้าไปในบริเวณที่เป็นช่องหรือโพรงได้ง่าย (Loading) เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าเครื่อง CNC


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. แกนที่เป็นเชิงเส้นมีความยุ่งยากในการ Seal เพื่อป้องกันฝุ่นและของเหลว


การประยุกต์ใช้งาน

โดยทั่วไปจะใช้ในการหยิบยกชิ้นงาน (Pick-and-Place) หรือป้อนชิ้นงานเข้าเครื่องจักร เพราะสามารถเคลื่อนที่เข้าออกบริเวณที่เป็นช่องโพรงเล็กๆ ได้สะดวก

3. Spherical Robot (Polar) มีสองแกนที่เคลื่อนในลักษณะการหมุน (Revolute Joint) คือแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 2 (ไหล่) ส่วนแกนที่ 3 (ข้อศอก) จะเป็นลักษณะของการเคลื่อนที่แนวเส้นตรง 

ข้อดี

1. มีปริมาตรการทำงานมากขึ้นเนื่องจากการหมุนของแกนที่ 2 (ไหล่)
2. สามารถที่จะก้มลงมาจับชิ้นงานบนพื้นได้สะดวก


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด (Coordinate) และส่วนประกอบ ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมมีความซับซ้อนขึ้น


การประยุกต์ใช้งาน

ใช้ในงานที่มีการเคลื่อนที่ในแนวตั้ง (Vertical) เพียงเล็กน้อย เช่น การโหลดชิ้นงานเข้าออกจากเครื่องปั้ม (Press) หรืออาจจะใช้งานเชื่อมจุด (Spot Welding)

 

 à¹à¸‚นกลหุ่นยนต์


4. SCARA Robot จะมีลักษณะแกนที่ 1 (เอว) และแกนที่ 3 (ข้อศอก) หมุนรอบแกนแนวตั้ง และแกนที่ 2 จะเป็นลักษณะการเคลื่อนที่ขึ้นลง (Prismatic) ซึ่งหุ่นยนต์ SCARA จะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วในแนวระนาบ และมีความแม่นยำสูง

ข้อดี

1. สามารถเคลื่อนที่ในแนวระนาบ และขึ้นลงได้รวดเร็ว
2. มีความแม่นยำสูง


ข้อเสีย

1. มีพื้นที่ทำงานจำกัด
2. ไม่สามารถหมุน (rotation)ในลักษณะมุมต่างๆได้
3. สามารถยกน้ำหนัก (Payload) ได้ไม่มากนัก


การประยุกต์ใช้งาน

เนื่องจากการเคลื่อนที่ในแนวระนาบและขึ้นลงได้รวดเร็วจึงเหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องการความรวดเร็วและการเคลื่อนที่ก็ไม่ต้องการการหมุนมากนัก แต่จะไม่เหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนทางกล (Mechanical Part) ซึ่งส่วนใหญ่การประกอบจะอาศัยการหมุน (Rotation)ในลักษณะมุมต่างๆ นอกจากนี้ SCARA Robot ยังเหมาะกับงานตรวจสอบ (Inspection) งานบรรจุภัณฑ์ (Packaging)

5. Articulated Arm ทุกแกนการเคลื่อนที่จะเป็นแบบหมุน (Revolute) รูปแบบการเคลื่อนที่จะคล้ายกับแขนคน ซึ่งจะประกอบด้วยช่วงเอว ท่อนแขนบน ท่อนแขนล่าง ข้อมือ การเคลื่อนที่ทำให้ได้พื้นที่การทำงาน 

ข้อดี

1. เนื่องจากทุกแกนจะเคลื่อนที่ในลักษณะ ของการหมุนทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการเข้าไปยังจุดต่างๆ
2. บริเวณข้อต่อ industrial robot (Joint) สามารถ Seal เพื่อป้องกันฝุ่น ความชื้น หรือน้ำ ได้ง่าย
3. มีพื้นที่การทำงานมาก
4. สามารถเข้าถึงชิ้นงานทั้งจากด้านบน ด้านล่าง
5. เหมาะกับการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นชุดขับเคลื่อน


ข้อเสีย

1. มีระบบพิกัด (Coordinate) ที่ซับซ้อน
2. การเคลื่อนที่และระบบควบคุมทำความ เข้าใจได้ยากขึ้น
3. ควบคุมให้เคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง (Linear) ได้ยาก
4.โครงสร้างไม่มั่นคงตลอดช่วงการเคลื่อนที่ เพราะบริเวณขอบ Work Envelope ปลายแขนจะ
5. มีการสั่น ทำให้ความแม่ยำลดลง


การประยุกต์ใช้งาน

หุ่นยนต์ชนิดนี้สามารถใช้งานได้กว้างขวางเพราะสามารถเข้าถึงตำแหน่งต่างๆ ได้ดี เช่น งานเชื่อม Spot Welding, Path Welding, งานยกของ, งานตัด, งานทากาว, งานที่มีการเคลื่อนที่ยากๆ เช่น งานพ่นสี งาน Sealing ฯลฯ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า Industrial Robot นั้นมีหลากหลายประเภท แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมมีประโยชน์เหมือนกัน คือ สามารถช่วยทุ่นแรงในการทำงานต่าง ๆ แทนมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เช่น งานยกสินค้าจากสายงานการผลิต งานประกอบ งานเชื่อม งานตัด เป็นต้น

 

บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด


       à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เช่น เครื่องประกอบชิ้นงาน แขนกลหุ่นยนต์ เครื่องจักรระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์หยิบจับชิ้นงาน รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ เครื่องตรวจสอบและทดสอบชิ้นงาน เครื่องประกอบชิ้นงาน เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทฯ รับออกแบบและผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติทุกชนิด โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วยลูกค้าตัดสินในเรื่องการลงทุน ด้านออโตเมชั้น การติดตั้ง การฝึกอบรมการใช้งาน รวมถึงการดูแลรักษาซ่อมบำรุง มีอะไหล่ให้เปลี่ยนตามอายุการใช้งาน
---------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาทำความรู้จัก บริษัท ไอ.เอ็ม.อี. รีโวลูชั่น จำกัด
รถขนถ่ายวัสดุอัตโนมัติ สุดยอดตัวช่วยสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
ตอบโจทย์การประกอบชิ้นงานสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วย “เครื่องประกอบชิ้นงาน” เทคโนโลยีสุดล้ำ 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก

เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผิวหน้าคอนกรีตด้วยระบบพื้นเทสต้าฟลอร์

          ระบบพื้นเทสต้าฟลอร์ à¹€à¸›à¹‡à¸™à¹€à¸—คโนโลยีวัสดุที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผิวหน้าคอนกรีตแบบน้ำ มีคุณสมบัติใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีสาร VOCs (สารอินทรีย์ระเหยง่ายกลายเป็นไอได้ในอุณหภูมิห้องและความดันปกติ ทำให้เกิดอากาศเป็นพิษ) ผ่านทางการซึมผ่านและแลกเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางเคมี ได้แก่ การแลกเปลี่ยน ไอออน และเพิ่มพันธะทางเคมีของวัสดุ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง โดยระบบพื้นเทสต้าฟลอร์ à¹€à¸«à¸¡à¸²à¸°à¸ªà¸¡à¸à¸±à¸šà¸žà¸·à¹‰à¸™à¸—ี่ใช้งานต่างๆ อาทิเช่น โรงงานอุตสาห์กรรม คลังสินค้า โกดังเก็บวัสดุ ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ เป็นต้น

          พื้นผิวคอนกรีตที่ดี ควรต้องมีค่าความเเกร่ง หรือค่า compressive str. อย่างน้อย 240 KSC. cylinder ไม่ยุ่ย ไม่เป็นฝุ่น ปราศจากคราบน้ำมัน หรือคราบดิน ซึ่งการนำระบบพื้นเทสต้าฟลอร์ à¸¡à¸²à¹ƒà¸Šà¹‰à¸à¸±à¸šà¹‚ครงสร้างพื้นคอนกรีต ก็จะทำให้พื้นมีคุณสมบัติของความแข็งแรง ทนต่อการเสียดสี ทำความสะอาดง่าย บำรุงรักษาง่าย ไม่เก็บฝุ่น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และปราศจากสาร VOCs à¸«à¸£à¸·à¸­à¸ªà¸²à¸£à¸£à¸°à¹€à¸«à¸¢à¸—ี่อาจเป็นพิษต่อคนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอัตราการใช้ อยู่ที่ 0.2 ลิตรต่อตารางเมตร à¹€à¹€à¸•à¹ˆà¸—ั้งนี้ ปริมาณการใช้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการออกแบบและความเหมาะสมของการใช้งานด้วย

 

 

ขั้นตอนการติดตั้งระบบพื้นเทสต้าฟลอร์ à¸—ี่มีประสิทธิภาพ

 


  1. ก่อนติดตั้งระบบพื้นเทสต้าฟลอร์ ให้ทำความสะอาด ล้างพื้น เเละพรมน้ำให้ทั่งบริเวณ

  2. ใช้เครื่องขัดเปิดหน้า ขัดน้ำโดยใช้ใบเรซิ่น เบอร์ 200-400 โดยการไส่ใบขัดพื้นอยู่กับสภาพผิวคอนกร์ดเดิม

  3. ใช้ไม้รีคน้ำ หรือเครื่องออโต้ สครับเบอร์ไล่น้ำและเศษฝุ่น เศษโคลนออก ทิ้งไว้ให้คอนกรีตหมาด ประมาณ 30 นาที

  4. ลงน้ำยา ด้วย Microfiber หรือใช้ Auto Scrubber Machine อัตราส่วน 0.20 kg./sq.m โดยลงน้ำยา Testa Floor : Lithium Silicate Base จำนวน 1 ครั้ง เพื่อให้คอนกรีตอิ่มตัวด้วยซิลิเกต ทิ้งไว้ให้แห้ง à¸›à¸£à¸°à¸¡à¸²à¸“ 30 นาที - 1 ชั่วโมง (แล้วแต่สภาพพื้นผิวคอนกรีต) แล้วล้างน้ำปริมาณมากเพื่อล้างซิลิเกตส่วนเกินออก ก่อนทำการขัดด้วยใบเรซึ่น

  5. จากขั้นตอนที่ 4 เริ่มทำการขัดอีกโดยใบเรซิ่น เบอร์ 400 ขัดน้ำ รูปแบบการขัดจะต้องขัดในเเนงเเกน X,Y เพื่อลดรอยใบที่อาจเกิคขึ้น จนเกิดครีมแล้วล้างออก แต่ละขั้นตอนการขัด ต้องมีการล้างเอาคราบฝุ่นออก โดยใช้เครื่องออโต้สครับเบอร์

  6. ทำการขัดแห้ง จนขึ้นเงา (ต้องขัดในแนวแกน X,Y) ด้วยใบเรซิ่น เบอร์ 400,800,1500

  7. ตามขอบและมุมหรือบริเวณที่เครื่องไม่สามารถเข้าได้ โดยใช้ลูกหมูปรับรอบต่ำใส่ใบเรซิ่น เก็บงาน นอกจากนี้ à¸‚ั้นตอนการติตตั้งระบบพื้นเทสต้าฟลอร์ (Testa Floor) สามารถแบ่งบริเวณในการทำงานได้ พร้อมทั้งสามารถคิดตั้งได้ โดยไม่มีปัญหาด้านรอยต่อพื้น

  8. ภาพหลังติดตั้งระบบพื้นเทสต้าฟลอร์ (Testa Floor) จะมีลักษณะ ดังนี้        

  9.  

 

 

 

Testa Floor Sand Surface à¹€à¹€à¸šà¸šà¸‚ัดชั้นทราย

 

ระบบพื้นเทสต้าฟลอร์

 

 

Testa Floor Stone Surface เเบบขัดชั้นหิน

 

ระบบพื้นเทสต้าฟลอร์

 

 

Testa Floor Lithium Silicate เเบบขัดปัดเงา

 

ระบบพื้นเทสต้าฟลอร์

 

 

Testa Floor Stain Color

 

ระบบพื้นเทสต้าฟลอร์


           à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ริคโค้ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด "บริการดีมีมาตรฐาน ปฎิบัติงานตรงต่อเวลา เสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพสู่อนาคต" à¹€à¸£à¸²à¸„ือผู้เชี่ยวชาญงานเคมีภัณฑ์สำหรับงานก่อสร้าง งานพื้นสนามกีฬา ระบบพื้นเทสต้าฟลอร์ วัสดุยาแนวรอยต่อโครงสร้าง ระบบซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีต และบริการรถปั๊มคอนกรีต à¸”้วยทีมงานมืออาชีพที่ชำนาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 20 ปี ทำให้เราพร้อมเสมอสำหรับการให้คำปรึกษา แก้ไขทุกปัญหาเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด รวมไปถึงบริการต่างๆ ของเรา เช่น à¸£à¸°à¸šà¸šà¸žà¸·à¹‰à¸™à¹€à¸—สต้าฟลอร์ à¸£à¸°à¸šà¸šà¹€à¸„ลือบผิวหน้าด้วยโพลียูรีเทน à¸£à¸°à¸šà¸šà¸‹à¹ˆà¸­à¸¡à¹à¸‹à¸¡à¹‚ครงสร้าง à¸£à¸°à¸šà¸šà¸‡à¸²à¸™à¸‚ัดพื้นความเรียบสูงด้วยระบบเลเซอร์ à¸£à¸°à¸šà¸šà¹€à¸„ลือบผิวหน้าด้วยวัสดุอีพ็อกซี่ à¸£à¸°à¸šà¸šà¸žà¸·à¹‰à¸™à¸Ÿà¸¥à¸­à¸£à¹Œà¸®à¸²à¸£à¹Œà¸”เดนเนอร์ à¸£à¸°à¸šà¸šà¸à¸±à¸™à¸‹à¸¶à¸¡ à¸‡à¸²à¸™à¸šà¸£à¸´à¸à¸²à¸£à¸›à¸±à¹Šà¸¡à¸¢à¸´à¸‡à¸„อนกรีต ระบบขัดพื้นเเบบเบิร์นนิช ฟลอร์ เป็นต้น 

 

สปริงกด คืออะไร

สปริงกด à¸ˆà¸³à¸«à¸™à¹ˆà¸²à¸¢à¸ªà¸›à¸£à¸´à¸‡à¸à¸”คุณภาพดี à¹‚รงงานผลิตสปริง à¹‚ดย à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— นำสิน สปริง จำกัด

 

สปริงกด à¸„ืออะไร ?


          à¸ªà¸›à¸£à¸´à¸‡à¸à¸” (Copression Spring) à¸«à¸£à¸·à¸­ สปริงดัน à¹€à¸›à¹‡à¸™à¸ªà¸›à¸£à¸´à¸‡à¸—ี่ถูกออกมาเพื่อใช้รับน้ำหนัก แรงกด แรงดัน แรงกระแทก แรงยุบ ซึ่งสปริงกดที่พบเห็นกันทั่วไปมีลักษณะเป็นขดเกลียวทรงกระบอก โดยคุณสมบัติของสปริงกดจะมีความยืดหยุ่นและสามารถคืนตัวกลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้อย่างรวดเร็วและตัวสปริงสามารถปรับระยะห่าง pitch ปรับระยะรอบวงได้โดยไม่ทำให้คอยล์เสียรูปทำให้ลักษณะของเกลียวลวดจะมีระยะห่างที่เท่ากัน

 

สปริงกด

 

สปริงกด

 

 

ประเภทของสปริงกด ได้แก่


• สปริงกดปลายธรรมดา
• ปลายธรรมดาและเจียระไน
• ปลายตรง
• ปลายตรงและเจียระไน 


          ซึ่งสปริงกดที่รับแรงกดนั้น ปกติจะต้องให้ปลายสปริงสัมผัสกับสิ่งที่สปริงกดอยู่ให้มากที่สุด เพราะบางกรณีสปริงอยู่ในที่พื้นที่เรียบแบน จึงนิยมตัดปลายสปริงให้เรียบเป็นฐานตั้ง เพราะขดส่วนที่ตัด(เจียระไน) ปลายของสปริงกดไปจะสูญเสียผลในการเป็นสปริงไป ดังนั้นจึงต้องมีการคำนวณในเรื่องการออกแบบสปริงให้ดี เพื่อที่จะได้นำมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย

 

สปริงกดนิยมใช้กับอุตสาหกรรมใดบ้าง


          สปริงกด เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

 

ผลิตสปริงกด

 

 

ผู้ผลิต และจำหน่ายสปริงกด คุณภาพดี ราคาถูก


      บริษัท นำสิน สปริง จำกัด à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸—ฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 2535 เพื่อผลิตสปริงสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ สปริงดึง ของเล่น และสปริงอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ จากประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ในการผลิตสปริง ทางบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนสปริงที่มีคุณภาพและการบริการที่ดีเยี่ยม โดยมีความเคร่งครัดในการควบคุมมาตรฐานการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า

- ได้รับมาตรฐาน ยอมรับทั่วโลก ภายใต้การรับรองมาตรฐาน ระบบคุณภาพ ISO 9001:2015 à¹à¸¥à¸°à¸£à¸­à¸‡à¸£à¸±à¸šà¸¡à¸²à¸•à¸£à¸à¸²à¸™à¸„ุณภาพสำหรับยานยนต์ ISO/TS 16949
- มีช่างผู้ชำนาญ ผลิตสปริงด้วยเครื่องออโต้เมคิก และ CNC ที่มีประสิทธิภาพสูง
- รวมทั้งมีเครื่องทดสอบค่าสปริง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเมื่อนำชิ้นงานไปประกอบในสายการผลิต
- à¸—างบริษัทรับทำสปริงตั้งแต่ Compression Spring, Tension Spring, Torsion Spring, Wire Forming, Sheet Spring และ สปริงรูปแบบต่างๆ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
numsinspring.pagesthai.com
www.spring-manufacturer.com
www.nsspringthailand.com


------------------------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง

สปริงดึง (Extension Springs)
สิ่งที่ท่านจะได้รับเมื่อเลือกซื้อสปริงกับ นำสิน สปริง
4 ข้อควรระวังในการใช้สปริง 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก


 

สปริงกด คืออะไร

สปริงกด à¸ˆà¸³à¸«à¸™à¹ˆà¸²à¸¢à¸ªà¸›à¸£à¸´à¸‡à¸à¸”คุณภาพดี à¹‚รงงานผลิตสปริง à¹‚ดย à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— นำสิน สปริง จำกัด

 

สปริงกด à¸„ืออะไร ?


          à¸ªà¸›à¸£à¸´à¸‡à¸à¸” (Copression Spring) à¸«à¸£à¸·à¸­ สปริงดัน à¹€à¸›à¹‡à¸™à¸ªà¸›à¸£à¸´à¸‡à¸—ี่ถูกออกมาเพื่อใช้รับน้ำหนัก แรงกด แรงดัน แรงกระแทก แรงยุบ ซึ่งสปริงกดที่พบเห็นกันทั่วไปมีลักษณะเป็นขดเกลียวทรงกระบอก โดยคุณสมบัติของสปริงกดจะมีความยืดหยุ่นและสามารถคืนตัวกลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้อย่างรวดเร็วและตัวสปริงสามารถปรับระยะห่าง pitch ปรับระยะรอบวงได้โดยไม่ทำให้คอยล์เสียรูปทำให้ลักษณะของเกลียวลวดจะมีระยะห่างที่เท่ากัน

 

สปริงกด

 

สปริงกด

 

 

ประเภทของสปริงกด ได้แก่


• สปริงกดปลายธรรมดา
• ปลายธรรมดาและเจียระไน
• ปลายตรง
• ปลายตรงและเจียระไน 


          ซึ่งสปริงกดที่รับแรงกดนั้น ปกติจะต้องให้ปลายสปริงสัมผัสกับสิ่งที่สปริงกดอยู่ให้มากที่สุด เพราะบางกรณีสปริงอยู่ในที่พื้นที่เรียบแบน จึงนิยมตัดปลายสปริงให้เรียบเป็นฐานตั้ง เพราะขดส่วนที่ตัด(เจียระไน) ปลายของสปริงกดไปจะสูญเสียผลในการเป็นสปริงไป ดังนั้นจึงต้องมีการคำนวณในเรื่องการออกแบบสปริงให้ดี เพื่อที่จะได้นำมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย

 

สปริงกดนิยมใช้กับอุตสาหกรรมใดบ้าง


          สปริงกด เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

 

ผลิตสปริงกด

 

 

ผู้ผลิต และจำหน่ายสปริงกด คุณภาพดี ราคาถูก


      บริษัท นำสิน สปริง จำกัด à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸—ฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 2535 เพื่อผลิตสปริงสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ ของเล่น และสปริงอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ จากประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ในการผลิตสปริง ทางบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนสปริงที่มีคุณภาพและการบริการที่ดีเยี่ยม โดยมีความเคร่งครัดในการควบคุมมาตรฐานการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า

- ได้รับมาตรฐาน ยอมรับทั่วโลก ภายใต้การรับรองมาตรฐาน ระบบคุณภาพ ISO 9001:2015 à¹à¸¥à¸°à¸£à¸­à¸‡à¸£à¸±à¸šà¸¡à¸²à¸•à¸£à¸à¸²à¸™à¸„ุณภาพสำหรับยานยนต์ ISO/TS 16949
- มีช่างผู้ชำนาญ ผลิตสปริงด้วยเครื่องออโต้เมคิก และ CNC ที่มีประสิทธิภาพสูง
- รวมทั้งมีเครื่องทดสอบค่าสปริง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเมื่อนำชิ้นงานไปประกอบในสายการผลิต
- à¸—างบริษัทรับทำสปริงตั้งแต่ Compression Spring, Tension Spring, Torsion Spring, สปริงดึง Wire Forming, Sheet Spring และ สปริงรูปแบบต่างๆ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
numsinspring.pagesthai.com
www.spring-manufacturer.com
www.nsspringthailand.com


------------------------------------------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง

สปริงดึง (Extension Springs)
สิ่งที่ท่านจะได้รับเมื่อเลือกซื้อสปริงกับ นำสิน สปริง
4 ข้อควรระวังในการใช้สปริง 

 

____________________________________________________

 

สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Marketplace

 

www.brandexdirectory.com
เว็บไซต์รวมสินค้าอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

 

www.pagesthai.com
เว็บไซต์รวมรายชื่อโรงงานผลิต ซับคอนแทรค และบริการ

 

www.Brand.co.th
เว็บรวมสินค้าแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าแบรนด์

 

www.eeczone.com
เว็บรวมรายชื่อผู้ประกอบการภาคตะวันออก


 

รู้หรือไม่ เครนทาวเวอร์แขนกระดก เหมาะใช้งานในพื้นที่ลักษณะใด?

ทาวเวอร์เครน (Tower Crane) เป็นเครื่องจักรพบได้ทั่วไปในงานก่อสร้างอาคารสูง เพราะมีประโยชน์ในการเป็นตัวทุ่นแรงเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ที่แรงงานคนหรือเครื่องจักรประเภทอื่นๆ ไม่สามารถยกได้ โดยทาวเวอร์เครนนั้นก็จะมีหลายประเภทตามการใช้งาน แต่ถ้าหากต้องการยนย้ายสิ่งของในพื้นที่ที่จำกัดหรือพื้นที่แคบ เครนทาวเวอร์แขนกระดก คือ คำตอบที่สามารถตอบโจทย์ของผู้ใช้งานได้

 

เครนทาวเวอร์แขนกระดก สำหรับการเคลื่อนย้ายสิ่งของหนักในพื้นที่แคบ


เครนชนิดนี้ ใช้งานโดยตรงสำหรับยกสิ่งของต่างๆที่มีน้ำหนักมาก สามารถหมุนได้รอบตัว เครนทาวเวอร์แขนกระดก จึงมักถูกใช้งานในบริเวณที่จำกัด โดยเครนชนิดนี้จะยกสูงสุดเท่าไหร่ ก็จะขึ้นอยู่กับรุ่นที่ลูกค้าใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ทาวเวอร์เครน ”JASO” รุ่น J180PA ที่เป็นเครนชนิดแขนกระดก มีแขนยาว 50 เมตร (Jib length) ปลายแขนยกน้ำหนักได้ 3 ตัน (Tip Load) น้ำหนักยกสูงสุด 12 ตัน (Maximum Load) ซึ่งเครนดังกล่าวเป็นทาวเวอร์เครนที่สามารถยกองศาแขนของตัวทาวเวอร์เครนเองได้เพื่อหลบเลี่ยงสิ่งปลูกสร้าง หรือหลีกเลี่ยงการล้ำเข้าพื้นที่ข้างเคียง อันเป็นเหตุที่อาจก่อให้เหตุข้อพิพาทระหว่างเจ้าของพื้นที่ข้างเคียงและหน่วยงานก่อสร้างได้ ซึ่งในระยะหลังนี้จะเห็นได้ว่าได้รับความนิยมค่อนข้างมากสำหรับการติดตั้งใช้งานในโซนที่มีอาคารปลูกสร้างค่อนข้างหนาแน่น

 

ทาวเวอร์เครนชนิดเเขนกระดก ”JASO” รุ่น J180PA


เครนทาวเวอร์แขนกระดก

 

ทาวเวอร์เครนมีบทบาทสำคัญมากๆ ในงานก่อสร้าง ซึ่งนอกจากเครนทาวเวอร์แขนกระดก ยังมีทาวเวอร์เครนประเภทอื่นๆ ให้เลือกความเหมาะสมของแผนงานการก่อสร้าง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม บริษัท ที เอส ไอ ซี อินเตอร์เทรด จำกัด à¸œà¸¹à¹‰à¹ƒà¸«à¹‰à¸šà¸£à¸´à¸à¸²à¸£à¸‚าย-ให้เช่าเครนโรงงาน เครนทาวเวอร์แขนกระดก ทาวเวอร์เครนแขนตรง แขนกระดก ลิฟท์ขนส่งสินค้า รอก-สลิง และบริการติดตั้งและรื้อถอนทาวเวอร์เครน สำหรับงานก่อสร้างอาคารสูง อาคารทั่วไป หรือโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท ด้วยทีมงานที่ชำนาญงานและประสบการณ์เฉพาะด้าน เน้นคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ

 

สามารถติดต่อได้ที่ à¸šà¸£à¸´à¸©à¸±à¸— ที เอส ไอ ซี อินเตอร์เทรด จำกัด

tsic.pagesthai.com
www.tsic-crane.com

 

-------------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง

- สุดยอดวิธีการบำรุงรักษารถเครน ทาวเวอร์เครนในเบื้องต้น

- มาทำความรู้จักกับเครนทาวเวอร์แขนตรง

- การใช้งานรถเครนเคลื่อนที่อย่างปลอดภัย ควรทำอย่างไร

 

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15